วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2565

สรรพชัยย์พร้อมนำเอ็นที Move on ตั้งเป้าชัดก้าวสู่องค์กรหลักขับเคลื่อนนโยบายด้านดิจิทัลสู่หน่วยงานภาครัฐ


สรรพชัยย์พร้อมนำเอ็นที Move on
ตั้งเป้าชัดก้าวสู่องค์กรหลักขับเคลื่อนนโยบายด้านดิจิทัลสู่หน่วยงานภาครัฐ
 เอ็นทีเปิดตัวกรรมการผู้จัดการใหญ่คนแรกหลังควบรวมกว่าปีครึ่ง เตรียมปรับทัพระยะเปลี่ยนผ่านภายในสิงหาคมนี้ พร้อมปักหมุดเป็นองค์กรหลักหนุนหน่วยงานรัฐขับเคลื่อนภารกิจด้านดิจิทัลครบวงจร

 พันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ ‘เอ็นที’ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในโอกาสรับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่คนแรกของเอ็นทีว่ามีความตั้งใจ ที่จะขับเคลื่อนองค์กรแห่งนี้ให้มีความเข้มแข็งเพื่อให้สามารถนำศักยภาพและความพร้อมของโครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคมที่ครอบคลุมและหลากหลาย รวมทั้งบุคลากรขององค์กรที่มีอยู่ทั่วประเทศมาใช้ให้เกิดประโยชน์และพร้อมรองรับการดำเนินงานของเอ็นทีที่จะมุ่งเป้าที่เป็นกำลังหลักให้กับหน่วยงานภาครัฐทุกระดับในการปรับเปลี่ยนพัฒนาองค์กรด้วยเทคโนโลยีด้านดิจิทัลและสื่อสารโทรคมนาคม โดยเอ็นทีจะมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรและกระบวนการทำงานภายใน เพิ่มขีดความสามารถของบุคลากร บูรณาการโครงข่ายโทรคมนาคมให้เป็นหนึ่งเดียว พร้อมกับบริหารต้นทุนให้เหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจและสอดคล้องกับอุตสาหกรรม

 สำหรับโครงการและการดำเนินงานสำคัญที่เร่งดำเนินการตามภารกิจที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมมอบหมายในขณะนี้ อาทิ การจัดระเบียบสายสื่อสารในปี 2565 นี้ได้เริ่มดำเนินการในกลุ่มเร่งด่วนพื้นที่ชั้นในกรุงเทพมหานครตามแนวถนนสายหลัก ก่อนขยายสู่พื้นที่รอบนอกต่อไป โดยหากพื้นที่ใดยังไม่สามารถนำสายลงใต้ดินได้ จะดำเนินโครงการจัดระเบียบสายด้วยการตัดสายเก่าทิ้งและเดินสายสื่อสารใหม่ ซึ่งเป็นการดำเนินการร่วมกันกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและผู้ประกอบการภาคเอกชน ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย ซึ่งมีไอเอสพีเป็นสมาชิก และกรุงเทพมหานคร ในการจัดระเบียบสาย พร้อมกัน
  โครงการท่อร้อยสายสื่อสารใต้ดิน เอ็นทีมีศักยภาพพร้อมที่จะดำเนินการได้ทันทีด้วยความพร้อมของ ท่อร้อยสายใต้ดินที่มีอยู่แล้ว 4,450 กิโลเมตร สามารถรองรับเคเบิลทองแดงขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถแขวนกับ เสาไฟฟ้าได้ รวมทั้งการสร้างท่อร้อยสายไปพร้อม ๆ กับการก่อสร้างถนนใหม่เพื่อลดผลกระทบจากการเปิด ผิวจราจร
ซึ่งเอ็นทีเห็นว่าการใช้ทรัพยากรร่วมกันของผู้ให้บริการทุกค่ายอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม (Neutral Operator) ในหลักการใช้ Infrastructure Sharing ไม่ว่าจะเป็น Telecom Infrastructure และ Digital Infrastructure จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ ประชาชนและผู้ใช้บริการทุกคน ขณะที่ผู้ประกอบการให้บริการ จะประหยัดงบประมาณลงได้เป็นจำนวนมากอีกด้วย
  โครงการคลาวด์กลางภาครัฐ (GDCC) ที่ผ่านมา เอ็นทีเน้นให้บริการในระดับโครงสร้างพื้นฐานพร้อมพัฒนาบุคลากรของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้มุ่งขยายการบริการในระดับแพลตฟอร์มและซอฟต์แวร์ ซึ่งจะเป็นโครงการสำคัญที่ช่วยสนับสนุนและผลักดันองค์กรภาครัฐให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่รัฐบาลดิจิทัลไทยแลนด์ 4.0 ตามนโยบาย Digital Thailand รวมทั้งเอ็นทียังได้ดำเนินโครงการอื่น ๆ ที่จะรองรับความต้องการภาครัฐด้าน Data Analytic ที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต ทั้งด้านการท่องเที่ยว การเกษตร การศึกษา สาธารณสุข แรงงาน ฯลฯ
  โครงการ 5G เอ็นทีมีคลื่นความถี่ที่ได้รับจากการประมูลใน 2 ย่านความถี่ โดยคลื่นความถี่ 26 GHz ซึ่งเป็นคลื่นในย่านความสูง เอ็นทีเน้นลงทุนให้บริการสำหรับผู้ประกอบการขนาดใหญ่เฉพาะกลุ่มเพื่อความคุ้มค่า โดยในปีนี้มุ่งเน้นการพัฒนาและเปิดให้บริการร่วมกับพันธมิตรในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ (EEC) และสนับสนุนการพัฒนาสู่ Smart City ซึ่งได้เริ่มเปิดให้บริการในเชิงพาณิชย์แล้ว ส่วนความถี่ 700 MHz ได้ดำเนินการใน 2 รูปแบบ ได้แก่ การดำเนินการเองสำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ใช้บริการพื้นฐานทั่วไป ไม่ต้องการแบนด์วิดท์สูง และการให้พันธมิตรร่วมให้บริการ 5G ในรูปแบบ Network Sharing เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนขององค์กร
  นอกจากนี้ก็ยังมีโครงการอื่น ๆ อีก อาทิ การจัดการสินทรัพย์ดาวเทียมไทยคม, ASEAN Digital Hub, การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีอยู่ เป็นต้น ทั้งนี้ในแต่ละเรื่องมีแนวทางต้องดำเนินการทั้งระยะสั้นและระยะยาวคู่ขนานกันไป โดยเฉพาะการพัฒนาบุคลากรที่เป็นหัวใจสำคัญและต้องมีการปรับระบบการทำงานในหลายมิตินั้น จะส่งเสริมการทำงานร่วมกัน ดูแลคุณภาพชีวิต เพิ่มทักษะให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจทั้งในปัจจุบันและอนาคต ตลอดจนสร้างขวัญและกำลังใจในการเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเอ็นทีจะปรับโครงสร้างองค์กรระยะเปลี่ยนผ่านภายในเดือนสิงหาคมนี้ ขณะเดียวกันจะมีการจัดทำโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนดเพื่อเป็นทางเลือกให้กับพนักงานด้วย
  สำหรับผลประกอบการในปี 2565 ถึงปัจจุบัน เอ็นทีมีรายได้รวม 49,557.65 ล้านบาท คิดเป็น 47.78% เมื่อเทียบกับเป้าหมายที่วางไว้ โดยรายได้หลักมาจากกลุ่มธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ กลุ่มธุรกิจโทรศัพท์ประจำที่และบรอดแบนด์



yaipearn
yaipearn

This is a short biography of the post author. Maecenas nec odio et ante tincidunt tempus donec vitae sapien ut libero venenatis faucibus nullam quis ante maecenas nec odio et ante tincidunt tempus donec.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น